ด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ปปส.กทม.)
มีความประสงค์จะขายทอดตลาดทรัพย์สิน ประเภทรถยนต์และยานพาหนะ และประเภทอื่นๆ จำนวน 32 รายการ ตามคำสั่งเลขาธิการ ป.ป.ส. ที่ 6659/2566 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 โดยจะทำการขายทอดตลาด ในวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ สำนักงาน ปปส.กทม. เลขที่ 213
ซอยวิภาวดีรังสิต 25 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร รายละเอียดปรากฏตามบัญชีแนบท้ายประกาศ และมีเงื่อนไขในการขายทอดตลาด ดังนี้
1. ผู้ที่ประสงค์เข้าสู้ราคาจะติดต่อขอลงทะเบียนและดูทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาด ดังนี้
1.1 ผู้ที่ประสงค์เข้าสู้ราคาติดต่อขอดูทรัพย์สินตามสถานที่เก็บรักษาทรัพย์สิน ดังนี้
- ทรัพย์สินรายการที่ 1 – 17 และ รายการที่ 19 ณ สถานที่เก็บรักษาทรัพย์สินลาดหลุมแก้ว สำนักงาน ปปส.ภาค 1 ตำบลบางคูหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี
ในวันพุธที่ 22 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 – 14.00 น.
- ทรัพย์สินรายการที่ 18 ณ สำนักงาน ปปส.ภาค 7 เลขที่ 90/9 หมู่ที่ 1 ตำบลบางโทรัด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ในวันพุธที่ 22 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 – 14.00 น.
- ทรัพย์สินรายการที่ 20 – 32 ณ สำนักงาน ปปส.กทม. เลขที่ 213 ซอยวิภาวดีรังสิต 25 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ในวันพุธที่ 22 พฤศจิกายน 2566
เวลา 10.00 – 14.00 น.
โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ถือว่าผู้เข้าสู้ราคาได้ตรวจดูสภาพทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาด
จนเป็นที่พอใจแล้ว และจะไม่รับผิดชอบในความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินไม่ว่ากรณีใดๆ
1.2 กำหนดการลงทะเบียนเข้าประมูลสู้ราคา ในวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. และจะดำเนินการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ สำนักงาน ปปส.กทม. เลขที่ 213 ซอยวิภาวดีรังสิต 25 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ขอกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การขายทอดตลาด ดังนี้
1.2.1 การขายทอดตลาดจะดำเนินการตามประกาศขายทอดตลาดและระเบียบอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
1.2.2 การสู้ราคาการขายทอดตลาดจะต้องเป็นหมายเลขของผู้ลงทะเบียนเท่านั้น
ทั้งนี้ ในการลงทะเบียนประมูลจะต้องแสดงหลักฐานบุคคลหรือหลักฐานการเข้าสู้ราคาในนามบุคคลอื่น และจะต้องลงทะเบียนวางเงินประกันค่าป้ายประมูล จำนวน 500 บาท โดยผู้ประมูลจะต้องนั่งตามหมายเลข
ลงทะเบียนที่กำหนดไว้
1.2.3 กรรมการขายทอดตลาดขอสงวนสิทธิ์ในการถอนการประมูล หรือยุติการขายทอดตลาด หากผู้ประมูลไม่ปฏิบัติตามระเบียบ หรือก่อความไม่สงบในการขายทอดตลาดในรายการนั้นๆ
1.3 ผู้ประสงค์จะเข้าสู้ราคาในการประมูลทรัพย์สินที่มีราคาตั้งแต่ 1,000,000 บาท เป็นต้นไป จะต้องวางหลักประกันในการเข้าสู้ราคาเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คของธนาคารในกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล รายการละ 100,000 บาท สั่งจ่าย "เก็บรักษาทรัพย์สินคดียาเสพติด (เงินจากการขายทอดตลาด) โดย ปปส.กทม." ต่อคณะกรรมการขายทอดตลาดก่อน จึงจะมีสิทธิเข้าสู้ราคา และจะคืนให้ผู้เข้าสู้ราคาต่อเมื่อการขายทอดตลาดรายการนั้นเสร็จแล้ว ในกรณีที่ผู้เข้าสู้ราคาผู้ใดเป็นผู้ชนะ
การประมูลให้ถือว่าหลักประกันของผู้สู้ราคาผู้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการชำระราคา
2. ดำเนินการประมูลราคาโดยปากเปล่า ต่อหน้าคณะกรรมการขายทอดตลาดของสำนักงาน ป.ป.ส. และต่อหน้าผู้สู้ราคาที่มีอยู่
3. คณะกรรมการขายทอดตลาด จะแสดงความตกลงด้วยการเคาะไม้ แต่หากคณะกรรมการ
ขายทอดตลาดเห็นว่าราคาที่ผู้สู้ราคาสูงสุดยังไม่เพียงพอกับราคาทรัพย์สินที่จะขาย คณะกรรมการขายทอดตลาด
อาจถอนรายการที่ไม่เห็นสมควรขายนั้น ๆ ออกจากการขายทอดตลาดได้และสำนักงาน ป.ป.ส. ทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะยกเลิกการขายในรายการที่ไม่เห็นสมควรนั้น ๆ ซึ่งในกรณีเช่นนี้ ผู้เข้าสู้ราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น
4. หากคณะกรรมการขายทอดตลาดทรัพย์สินรายการใดรายการหนึ่งให้กับผู้สู้ราคาสูงสุด
รายใดแล้ว ผู้นั้นจะต้องชำระเงินในรายการนั้นทันที หรือชำระเงินมัดจำไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของราคา ที่ประมูลได้ ในกรณีที่ราคาประมูลของทรัพย์สินมีราคาตั้งแต่หนึ่งแสนบาทขึ้นไป โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จะออกใบรับเงินไว้เป็นหลักฐาน และทำสัญญาโดยมีเงื่อนไขในการชำระราคาส่วนที่เหลือให้เสร็จสิ้นภายในเวลาไม่เกิน 30 วันนับแต่วันขาย หากไม่ชำระให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด สำนักงาน ป.ป.ส. จะริบเงินมัดจำนั้นเสีย และหากการขายครั้งใหม่ได้เงินจำนวนสุทธิไม่คุ้มกับการขายทอดตลาดครั้งก่อน ผู้ซื้อเดิมจะต้องรับผิดชดใช้
ราคาส่วนที่ขาดอยู่นั้น
5. กรณีทรัพย์สินรายการใดคณะกรรมการขายทอดตลาดกำหนดให้มีการวางหลักประกัน ผู้เข้าสู้ราคาจะต้องวางหลักประกันเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คของธนาคาร ในวงเงินตามบัญชีแนบท้ายประกาศก่อน จึงจะมีสิทธิเข้าสู้ราคา และจะคืนหลักประกันให้ผู้เข้าสู้ราคาต่อเมื่อการขายทอดตลาดรายการนั้นเสร็จสิ้นแล้ว และกรณีที่ผู้เข้าสู้ราคาผู้ใดเป็นผู้ประมูลซื้อได้ให้ถือว่าหลักประกันของผู้เข้าสู้ราคานั้นเป็นส่วนหนึ่งของการชำระราคา
6. สำนักงาน ป.ป.ส. ขอสงวนสิทธิ์ในการถอนทรัพย์สินรายการใดๆ ตามประกาศออกจากการขาย ก่อนการขายทอดตลาดตามความเหมาะสม เพื่อให้การขายเป็นไปโดยเรียบร้อย โดยผู้ที่เข้าร่วมประมูลสู้ราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น
7. การขนย้ายทรัพย์สิน ผู้ซื้อจะต้องออกค่าใช้จ่ายในการขนย้ายทรัพย์สินดังกล่าวไปจากสถานที่ที่ทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่และจะต้องเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และค่าภาษีค้างชำระในการโอนกรรมสิทธิ์
ผู้ซื้อต้องขนย้ายทรัพย์สินภายใน ๗ วันหลังจากได้ชำระเงินเสร็จสิ้น ส่วนทรัพย์สินที่ผู้ประมูลได้ ยังไม่ได้ขนย้ายไปผู้ประมูลได้เป็นผู้รับผิดชอบในการเสื่อมสภาพของตัวทรัพย์และค่าใช้จ่ายที่มีขึ้น
8. ผู้ประมูลได้ต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ภายในระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ชำระเงินครบถ้วน หากผู้ประมูลได้ไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ประมูลได้จะไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายอันเกิดจากการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ประมูลได้
9. กรณีขายทอดตลาดทรัพย์สินประเภทยานพาหนะ ให้เป็นหน้าที่ของผู้เข้าสู้ราคาที่จะต้องตรวจสอบข้อมูล และเงื่อนไขการจดทะเบียนของยานพาหนะดังกล่าวตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดก่อนการเข้าสู้ราคา และในขณะทำการขายทอดตลาดทรัพย์สินให้ถือว่าผู้เข้าสู้ราคารับทราบข้อมูลและยอมรับเงื่อนไขการจดทะเบียนของยานพาหนะดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ ในการลงทะเบียนต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวข้าราชการ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือบัตรแสดงตนที่ทางราชการออกให้อย่างใดอย่างหนึ่งมาแสดงในวันขายทอดตลาดด้วย และในกรณีที่ผู้สู้ราคาประสงค์จะเข้าสู้ราคาในนามบุคคลอื่น ให้แสดงใบมอบอำนาจก่อนเข้าสู้ราคา ถ้าไม่แสดงให้ถือว่าเข้าสู้ราคาในนามตนเอง และลำดับรายการทรัพย์สินตามบัญชีแนบท้ายประกาศคณะกรรมการขายทอดตลาดนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.oncb.go.th/
ข่าวขายทอดตลาดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2588 5037-9 ต่อ 24007, 24009