พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยถึงการเดินหน้าปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหายาเสพติด ตามนโยบายที่ให้ไว้เมื่อครั้งรับตำแหน่ง เมื่อ 1 ตุลาคม 2568 และนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยย้ำว่า “ตามนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.ท. รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับชุมชน สำนักงาน ป.ป.ส. จึงเดินหน้าปฏิบัติการ ‘1386 ท่านแจ้ง เราจับ’ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนทุกความเดือดร้อนของประชาชนให้เป็นความปลอดภัย และนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา สร้างสังคมที่ยั่งยืน”

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 ปปส.กทม. ภายใต้การอำนวยการของ นายอำนาจ เหล่ากอที ผอ.ปปส.กทม. และนายอดิเรก อ่อนละมูล ผอ.ส่วนบังคับใช้กฎหมาย จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากยาเสพติดของประชาชน ในทันทีที่ได้รับแจ้งผ่าน สายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. 1386 โดยมีการแจ้งผู้เสพยาเสพติด 2 ราย ที่มีอาการทางจิตเวชและคลุ้มคลั่ง ในพื้นที่เขตราชเทวี และเขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

ปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการตอบสนองต่อข้อร้องเรียนของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยตรงจากพฤติกรรมการค้าและเสพยาเสพติดในชุมชน และความสำเร็จที่สำคัญคือการได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์จากผู้เสพ เพื่อขยายผลไปสู่การจับกุมผู้ค้ารายย่อย ซึ่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอและเป็นหัวใจสำคัญของนโยบาย "ท่านแจ้ง เราจับ"

รายแรก เป็นการแจ้งเหตุผู้มีอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติด กำลังทำร้ายร่างกายภรรยาของตนเอง ด้วยอาวุธมีด ชุดเคลื่อนที่เร็ว ปปส.กทม.พร้อมด้วย สน.ดินแดง และ ศูนย์บริการสาธารณสุข 4 ดินแดง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ก่อเหตุ จึงดำเนินการจับกุมในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยผิดกฎหมาย ของกลาง ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 0.12 กรัม และส่ง สน.ดินแดง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

รายที่สองเป็นเหตุผู้มีอาการทางจิตเวชจากยาเสพติด และเริ่มข่มขู่เตรียมทำร้ายคนในบ้านด้วยอาวุธมีด ปปส.กทม. ร่วมกับ สน.คลองตัน เข้าพื้นที่ตรวจสอบและจับกุมข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดกำแพงเพชร ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และ พ.ร.บ.จราจรทางบก จึงนำตัวส่ง สน.คลองตัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เลขาธิการ ป.ป.ส. เน้นย้ำว่า “การดำเนินการครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า ทุกเบาะแสที่ประชาชนแจ้งเข้ามามีความสำคัญและจะถูกนำไปปฏิบัติการอย่างจริงจัง แม้การเข้าตรวจค้นจะไม่พบของกลาง แต่ข้อมูลที่ได้จากความร่วมมือถือเป็นตัวต่อชิ้นสำคัญที่จะนำเราไปสู่การทลายเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้น สำนักงาน ป.ป.ส. ขอขอบคุณทุกข้อมูลจากประชาชน และขอยืนยันว่าเราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อเปลี่ยนทุกความเดือดร้อนให้เป็นความสงบสุข ขอให้เชื่อมั่นในปฏิบัติการ ‘1386 ท่านแจ้ง เราจับ ที่พึ่งทุกปัญหายาเสพติด’ เพราะทุกปัญหาของท่าน คือภารกิจของเรา”